วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Monsters University
 ที่ทำให้รู้จักไมค์กับซัลลิแวนมากขึ้น ผมค่อนข้างจะโอเคกับมันนะ สนุกใช้ได้ ขำพอประมาณ ภาคแรกซัลลิแวนค่อนข้างเด่น ภาคนี้จึงเน้นที่ไมค์แทน


ประเด็นที่ชอบ :

“ล้มเหลวเรื่องหนึ่งไม่ได้แปลว่าจะล้มเหลวไปตลอด”

เรา เห็นจาก Monsters, Inc. ว่าไมค์ไม่ใช่มอนสเตอร์ที่น่ากลัว แต่เป็นพวกไม่คิดเล็กคิดน้อย รูปถ่ายของตัวเองจะถูกโลโก้หรืออะไรบังหน้าก็ไม่สน และมุ่งหน้าเพื่อเป้าหมายอะไรสักอย่างหนึ่งเสมอ ภาคนี้ขยายให้เด่นชัดว่าไมค์เป็นพวกมีความพยายามสูง สุดท้ายเขาได้พบความจริงว่าตัวเองไม่ได้น่ากลัว แต่นั่นไม่ได้แปลว่าอาชีพหรือความฝันจะหยุดลงแค่นั้น ในขณะเดียวกัน ซัลลิแวนอาจเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัว แต่เขาก็เป็นคนล้มเหลวและไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ถ้าไม่มีคู่หูอย่างไมค์

ประเด็น ของ Monsters University จึงน่าสนใจมาก มันคือเรื่องที่ว่า คนเรามีวิถีเป็นของตัวเอง ถึงจะล้มเหลวแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางอื่นที่จะทำความฝันให้เป็นจริง ไมค์ไปถึงฝั่งฝันอย่างที่เห็นใน Monsters, Inc. ได้ไม่ใช่เพราะสำเร็จมาตลอด แต่เพราะล้มเหลวจนเข้าใจในตัวเอง ยอมรับจุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง แล้วก็เดินหน้าไปแบบไม่กลัวอะไร เดินหน้าท้าทายกับความผิดหวังไปเรื่อยๆ
ชอบที่จริงๆแล้วมอนสเตอร์กลัวเด็ก เนื้อเรื่องลงตัว แอ็กชั่นสนุก บูน่ารัก ไมค์กับซัลลิแวนเข้าขากันแม้จะไม่เท่าวู้ดดี้กับบัซ 


ประเด็นที่ชอบ :
 รู้สึกเหมือนมันกำลังสะท้อนภาพของบริษัทในระบบทุนนิยม ไมค์กับซัลลิแวนมุ่งหน้าสร้างตำแหน่งและชื่อเสียงให้กับตัวเองโดยสนใจแต่ เรื่องผลการทำงาน (ยอดคะแนนสะสมจากเสียงร้องของเด็ก) การจัดลำดับพนักงานที่สร้างผลงานรวมถึงการให้ตำแหน่ง “พนักงานดีเด่นประจำเดือน” เป็นเรื่องที่เห็นได้ในบริษัททั่วไปในโลกเรา 

มัน ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถ้าเผอิญว่าระบบนี้ไม่ได้สร้างให้พนักงานแก่งแย่งกันจนมีบางคนต้องการจะเล่น โกง ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องของ “การทำงาน” มากกว่าจะเป็นเรื่องของ “ความสนุก” แต่พอมาถึงตอนท้าย เมื่อพบว่าเสียงหัวเราะของเด็กมีพลังมากพอๆกับเสียงกรีดร้อง ลักษณะการทำงานก็เปลี่ยนไป การจัดลำดับพนักงานหายไป บรรยากาศของบริษัทมีความสนุกมากขึ้น บรรดามอนสเตอร์ทั้งหลายก็ไม่จำเป็นต้องแย่งชิงผลงานกันอีกต่อไป

ไม่ เพียงเท่านั้น ตัวร้ายของเรื่องเห็นว่าพลังงานที่ได้จากเสียงกรีดร้องของเด็กชักจะเริ่มไม่ เพียงพอ เขาจะทำอะไรก็ได้เพื่อเพิ่มเสียงกรีดร้องของเด็กแม้กระทั่งต้องลักพาตัวเด็ก สักพันคน เป็นแนวคิดแบบพวกที่มุ่งแต่จะหาผลประโยชน์โดยไม่แคร์วิธีการ แต่จริงๆแล้วมันมีทางเลือกอื่นที่สร้างสรรค์มากกว่าและสะอาดกว่า ในขณะเดียวกันก็สร้างประโยชน์ให้โลกของมอนสเตอร์ได้ด้วยเช่นกัน จะเรียกพลังงานจากเสียงหัวเราะนั่นว่า “พลังงานทางเลือก” แบบที่โลกเรากำลังตามหาอยู่ก็คงได้ละมั้ง


1 ความคิดเห็น:

  1. Casino | The Casino Rewards Program
    All you need 강원도 출장안마 to know about Casino Rewards: The Casino Rewards Program. How does Casino 삼척 출장샵 Rewards 양주 출장샵 work? How can 안성 출장안마 I use the Rewards card 충청남도 출장마사지 to win real money?

    ตอบลบ